พุทธสังเวชนียสถานแห่งแรก คือ ลุมพินีวัน (Lumbini) เป็นสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า คือเป็นสถานที่ประสูติของพระราชกุมารสิทธัตถะ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะที่เป็นที่อุบัติขึ้นของพระรูปกายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระราชกุมารสิทธัตถะทรงประสูติมาจากพระครรภ์ของพระราชมารดา คือ พระนางสิริมหามายาเทวี เมื่อวันศุกร์ วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ เวลาเที่ยง ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี ทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ลุมพินีวันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น “มรดกโลก” ภายใต้ชื่อ “ลุมพินี สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า” ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (หรือองค์การยูเนสโก - UNESCO) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๒๑ ณ เมืองนาโปลี (เมืองเนเปิลส์) ประเทศอิตาลี
“ลุมพินีวัน” เป็นสวนหลวงอุทยานในเขตแคว้นศากยะ ตั้งอยู่ระหว่างแห่งเมืองกบิลพัสดุ์กับเมืองเทวทหะ รายล้อมด้วยต้นสาละ ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า พระนางสิริมหามายาเทวี พระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ เมื่อทรงพระครรภ์แก่ได้ ๑๐ เดือนจวนจะถึงเวลาประสูติพระราชโอรส ตามธรรมเนียมโบราณ สตรีที่มีครรภ์จะต้องกลับไปคลอดบุตรที่บ้านเกิด พระนางได้ทูลลาพระเจ้าสุทโธทนะ เพื่อไปประสูติพระราชโอรสยังเมืองเดิมของพระนาง คือ เมืองเทวทหะ โกลิยะวงศ์ เมื่อขบวนเดินทางมาถึงกลางทางคือสวนลุมพินีวัน เวลาใกล้เที่ยง ระหว่างแดนต่อแดนของกบิลพัสดุ์และเทวทหะ ได้ทรงให้ข้าราชบริพารหยุดพัก ขณะนั้นลมกัมมัชชวาตก็ได้ปั่นป่วนในพระครรภ์ของพระนาง จึงจำเป็นต้องเตรียมสถานที่เพื่อประสูติพระราชโอรสโดยกระทันหัน พระนางทรงยื่นพระหัตถ์เหนี่ยวกิ่งต้นสาละในท่าประทับยืน แล้วก็ได้ทรงประสูติพระราชโอรส ซึ่งมีพระวรกายผุดผ่องสะอาด
พระราชโอรสนี้คือพระโพธิสัตว์ผู้เปี่ยมด้วยบารมี เมื่อประสูติแล้วได้เสด็จดำเนินไปเบื้องหน้า ๗ ก้าว ท่าทีองอาจ เมื่อถึงก้าวที่เจ็ดทรงชี้พระหัตถ์หนึ่งขึ้นฟ้าพระหัตถ์ชี้พื้นดิน เปล่งพระอาสภิวาจาว่า
“อัคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส เชฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส
เสฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส
อายมนฺติมา ชาติ นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ”
“เราเป็นผู้เลิศที่สุดในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก
เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก
ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา ชาติอื่นจะไม่มีอีกต่อไป”
ปัจจุบันสถานที่ประสูติ คือ ลุมพินีวัน นั้นเรียกกันว่า รุมมินเด อยู่ในเขตประเทศเนปาล แต่เดิมรุมมินเดอยู่ในเขตอำเภอไภรวา บางส่วนของแคว้นอูธ รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย แต่เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๙๔ เกิดกบฏซีปอยขึ้นในอินเดีย อังกฤษจึงขอแรงประเทศเนปาล (สมัยนั้นอินเดียอยู่ในความปกครองของอังกฤษ) ให้มาช่วยเหลือ พระเจ้าสุเรนทระ กษัตริย์เนปาล ส่งทหารกรุข่าของเนปาลมาช่วย จนช่วยปราบกบฏได้สำเร็จ อังกฤษจึงยกพื้นที่ราบใหญ่บางส่วนของแคว้นอูธให้เป็นของเนปาล ซึ่งพื้นที่บางส่วนที่ยกให้เนปาลนี้เอง เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าคือสวนลุมพินี และกินพื้นที่ไปถึงเมืองกบิลพัสดุ์ เมืองเทวทหะ ในครั้งพุทธกาล
เมื่อมาถึงสถานที่ประสูติ ก็จะพบเห็น ซากอิฐเก่าๆ มากมาย, สระโบกขรณี มีน้ำขังเต็มเป็นรูปสี่เหลี่ยมโบกปูนไว้ เป็นสระโบราณก่อนเจ้าชายสิทธัตถะทรงประสูติ, วิหารมายาเทวี อยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ ซึ่งข้าราชบริพารของพระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างไว้เมื่อราวๆ พ.ศ. ๒๔๑ ตรงสถานที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงประสูติจากพระครรภ์พระราชมารดา ภายในวิหารมายาเทวีด้านซ้ายมือเป็น ภาพหินทรายแกะสลักรูปพระประสูติกาลของเจ้าชายสิทธัตถะอันงดงาม ที่เป็นรูปพระนางสิริมหามายาเทวีกำลังโน้มกิ่งต้นสาละใหญ่ด้วยพระหัตถ์ขวา และด้านขวามือเป็น ภาพเจ้าชายสิทธัตถะยืนเด่นอยู่องค์เดียว
ส่วนด้านหน้าวิหารมายาเทวี มีเสาหินกลมขัดเป็นมันปักตั้งอยู่คือ เสาศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช หรือ เสาอโศก พร้อมคำจารึกด้วยอักษรพราหมี (อ่านว่า พราม-มี) ของพวกพราหมณ์ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของอักษรในอินเดียมากมาย มีใจความว่า “พระเจ้าอโศกเสด็จมาประกอบพิธีบูชาที่นี่ เพราะพระพุทธเจ้าประสูติที่นี่” (ในปีที่ ๒๐ แห่งรัชกาลของพระองค์ ในพุทธศตวรรษที่ ๓)
Cr.น้องพลอย ลานธรรมจักรดอดเน็ต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น